ข่าวสาร

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันพุธ (9 เม.ย.) ว่า เขาจะลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ลงเหลือแค่ 10% เป็นเวลา 90 วัน เพื่อเปิดช่องให้มีการเจรจาการค้ากับประเทศเหล่านี้ จากเดิมที่เรียกเก็บบางประเทศกว่า 40% แต่จะเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 125% โดยมีผลทันที เนื่องจากจีนไม่ให้ความเคารพตลาดโลก

ทรัมป์ระบุผ่านโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการที่ประเทศต่าง ๆ กว่า 75 แห่งตัดสินใจติดต่อขอเจรจาหาทางออกในประเด็นการค้าที่ทรัมป์ยกขึ้นมา ทั้งเรื่องการปั่นค่าเงินและการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี

ทรัมป์กล่าวกับนักข่าวในภายหลังว่า เขาตัดสินใจระงับภาษีตอบโต้ (reciprocal tariffs) เป็นการชั่วคราว ยกเว้นกับจีน เพราะเห็นว่าหลายฝ่ายเริ่มตื่นเต้นตกใจกันมากไปและกลัวกันเกินเหตุการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากที่อัตราภาษีนำเข้าใหม่มีผลบังคับใช้กับประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากตลาดการเงินเผชิญกับความผันผวนรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงแรกของการระบาดโควิด-19

"ผมคิดว่าคนเริ่มตื่นตระหนกเกินไปหน่อย พวกเขากำลังเริ่มกังวล คุณรู้ไหม" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประกาศ โดยอ้างถึงอาการวิตกกังวลที่นักกีฬามักเผชิญ

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังคงกดดันจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าเข้าสหรัฐฯ รายใหญ่อันดับ 2 ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 125% ทันที จากระดับ 104% ที่มีผลบังคับใช้เมื่อเที่ยงคืน

ปักกิ่งตอบโต้เมื่อวันพุธด้วยการเก็บภาษี 84% กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้การเรียกเก็บภาษีครั้งก่อนของทรัมป์ และสาบานว่าจะ "สู้จนถึงที่สุด" ในสงครามการค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก

การระงับ 90 วันนี้ยังไม่มีผลบังคับใช้กับภาษีที่จ่ายโดยแคนาดาและเม็กซิโก เนื่องจากสินค้าของพวกเขายังคงอยู่ภายใต้ภาษี 25% ที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิล หากไม่ปฏิบัติตามกฎแหล่งกำเนิดของข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา ภาษีเหล่านี้ยังคงมีผลบังคับใช้ในขณะนี้ โดยมีการยกเว้นไม่มีกำหนดสำหรับสินค้าที่เป็นไปตาม USMCA

ที่มา : https://www.thansettakij.com/world/624668

Powered by Froala Editor